top of page

1.3  การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย

 

         การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศมีวัตถุประสงค์ หลายอย่าง เช่น การใช้งานเพื่อทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (electronic transaction) การใช้งานเพื่อสนับสนุน การทํางาน และการใช้งานทั่วไป ซึ่งจะต้องคํานึงถึงความ ปลอดภัยในการใช้งาน

1.3.1 การทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์อย่างปลอดภัย 

          การทําธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตหรือธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์นั้นกลายเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวคนไทย มากขึ้น หลังจากรัฐบาลไทยได้ให้ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เปิดโครงการพร้อมเพย์ (prompt pay) เพื่อให้ทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น การโอนเงิน การชําระค่าสินค้าและบริการ

           ในการทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต้องระมัดระวังและมีความรอบคอบ เช่น การซื้อสินค้า ออนไลน์ ผู้ซื้อสินค้าไม่เห็นสินค้าจริง และไม่ได้รับสินค้าทันทีหลังจากชําระเงิน ซึ่งอาจเป็นช่องทาง ให้เกิดการฉ้อโกง เช่น ไม่ได้รับสินค้า สินค้าไม่มีคุณภาพ หรือสินค้าไม่ตรงตามข้อมูลที่ปรากฏ

การทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มี 2 รูปแบบ คือ 

1)   การทําธุรกรรมโดยตรงระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ โดยผ่านเครือข่ายทางสังคมต่าง ๆ หรือผ่านเว็บไซต์ของผู้ขายเช่น การจองที่พักผ่านเว็บไซต์ของโรงแรม การสั่งซื้อมะพร้าวจากเว็บไซต์กลุ่มเกษตรกรจังหวัด 

2) การทําธุรกรรมโดยผ่านผู้ให้บริการ เป็นรูปแบบการทําธุรกรรมที่มีผู้ให้บริการสนับสนุนการดําเนินการหรือตัวกลาง โดยผู้ให้บริการจะรวบรวมสินค้าและบริการต่าง ๆ ให้อยู่ในที่เดียวเพื่อง่ายต่อการเข้าถึงและใช้บริการ ของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย การทําธุรกรรมในรูปแบบนี้ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะมีการตรวจสอบผู้ขายและเป็นเสมือน ผู้รับประกันทั้งในส่วนของสินค้า การให้บริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อว่าจะไม่ถูกหลอกลวงจากการ ทําธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การทําธุรกรรมในรูปแบบนี้คนกลางมักเป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือและมี ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งส่วนของผู้ขายและผู้ซื้อ อีกทั้งยังรับประกันการได้รับสินค้า ซึ่งทําให้ปัญหาต่าง ๆ ลดลง ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็นตัวกลางในการให้บริการ เช่น ebay.Com, lazada.co.th, shopee.co.th

ข้อควรคํานึงในการทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

          ผู้ใช้บริการอาจถูกมิจฉาชีพฉ้อโกง โดยใช้กลยุทธ์เรื่องราคาและหลักจิตวิทยาในการล่อลวงให้กลุ่มเป้าหมาย เกิดความโลภ หรือเข้าใจผิด เช่น ขายสินค้าในราคาที่ต่ํากว่าปกติมาก ขายสินค้าลอกเลียน หรือละเมิดลิขสิทธิ์โดย ทําให้เข้าใจว่าเป็นสินค้าของแท้

นอกจากนี้ผู้ใช้บริการควรมีความระมัดระวังในการชําระค่าสินค้าหรือบริการ ซึ่งอาจมีหลายรูปแบบ เช่น 

© ชําระเงินโดยการให้ผู้ซื้อดําเนินการโอนเงินผ่านธนาคาร แล้วส่งหลักฐานยืนยันเพื่อให้ผู้ขายส่งของภายหลัง 

© ชําระเงินภายหลังจากได้รับสินค้ากับผู้ขายหรือผู้ให้บริการส่งสินค้า 

© ชําระเงินโดยผ่านบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคาร ซึ่งใช้เพียงข้อมูลบางอย่าง เช่น ถ้าชําระเงินด้วยบัตรเครดิต

จะใช้เพียงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบัตร คือหมายเลขบัตร วันหมดอายุ รหัสซีวีวี (Card Verification Value: CVV) ที่อยู่ด้านหลังบัตรและจะมีการยืนยันด้วยการส่งรหัสผ่านแต่ละครั้ง (One Time Password: OTP) ผ่านทางโทรศัพท์มือถือหรืออีเมล หลังจากทําธุรกรรมเสร็จแล้วจะมีการแจ้งรายละเอียดการทําธุรกรรมผ่าน

ความมั่นใจในการทําธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้ หากผู้ให้บริการมีการยืนยันเพียงระดับเดียวอาจทําให้ไม่ปลอดภัย เช่น ถ้ามีการขโมยข้อมูลบัตรเครดิตมิจฉาชีพ ก็สามารถทําธุรกรรมได้เพราะไม่มีการยืนยัน

ตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง 

© บริการตัวกลางการชําระเงิน เช่น ผู้ให้บริการ

โทรศัพท์มือถือมีบริการรับชําระเงินโดยการ เติมเงินเข้าระบบและผูกบัญชีเข้ากับหมายเลข โทรศัพท์มือถือ ผู้ที่เป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ สามารถโอน จ่ายและชําระค่าสินค้าและบริการ ได้เสมือนกับมีบัญชีธนาคาร

ข้อควรระวังในการซื้อแอปพลิเคชัน ไอเท็ม หรือการบริการ 

1. เมื่อมีการชําระผ่านบัตรเครดิต หรือบัญชีธนาคาร ระบบปฏิบัติการจะบันทึกรายละเอียดไว้ ผู้ใช้งาน

ควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยไว้เสมอ ปิดหรือลบข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารทุกครั้ง ที่ใช้เสร็จแล้ว ซึ่งการลบข้อมูลเหล่านี้อาจจะทําให้ไม่ได้รับความสะดวกเมื่อจะชําระเงินครั้งต่อไป

แต่ก็สามารถป้องกันมิจฉาชีพในการโจรกรรมผ่านระบบ หรือการเผลอใช้บริการแบบไม่รู้ตัว 

2. การสมัครบริการต่าง ๆ ที่มีการชําระค่าบริการรายเดือน ถึงแม้ว่าจะต้องการใช้เพียงเดือนเดียว แต่ผู้ให้

บริการส่วนใหญ่มักจะมีการหักเงินค่าบริการทุกเดือนแบบอัตโนมัติ เช่น เสียงเพลงรอสาย การฟังเพลง

หรือดูหนังออนไลน์ 

3. ระวังการคลิกลิงก์ที่โฆษณาผ่าน sms อาจจะเป็นการสมัครใช้บริการโดยอัตโนมัติทันที

เกร็ดน่ารู้

1.3.2 การรู้เท่าทันสื่อ

          การรู้เท่าทันสื่อ หมายถึง ความสามารถในการป้องกันตนเองจากการถูกโน้มน้าวด้วยเนื้อหาที่เป็นเท็จ และมีผลกระทบต่อผู้รับสื่อ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการตลาดหรือผลประโยชน์ที่สื่อนําเสนอ การรู้เท่าทันสื่อนั้น ผู้รับสารต้องสามารถตีความ วิเคราะห์ แยกแยะเนื้อหาสาระของสื่อ คิดก่อนนําสื่อ ไปเผยแพร่ สามารถตั้งคําถามว่าสื่อนั้นมีที่มาอย่างไร ใครเป็นเจ้าของสื่อ ใครผลิต และผลิตภายใต้ ข้อจํากัดใด ควรเชื่อหรือไม่ มีความเชื่ออะไรที่แฝงมากับสื่อนั้น ผู้สร้างหรือผู้เผยแพร่สื่อนั้นหวังผล อะไร ดังนั้นควรเลือกแนวปฏิบัติอย่างเหมาะสม

          โดยทั่วไปแล้วการเข้าถึงเนื้อหาหรือข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ นั้น สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อผู้รับสาร แต่ต้องสร้างการตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามของสือที่มากับความอยากรู้อยากเห็นด้วย

การรู้เท่าทันสื่อสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้

ระดับที่ 1 ผู้รับสื่อตระหนักถึงความสําคัญของการเลือกและจัดสรรเวลาในการใช้สื่อต่าง ๆ การ 

ระดับที่ 2 ผู้รับสื่อสามารถเรียนรู้ทักษะการรับสื่อแบบวิพากษ์ สามารถวิเคราะห์ และตั้งคําถามว่าสื่อถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร และมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ 

ระดับที่ 3 ผู้รับสื่อสามารถวิเคราะห์สื่อในเชิงสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ จนนําไปสู่การสร้างเวทีทางสังคม

1.3.3 ข่าวลวงและผลกระทบ

ข่าวลวง (fake news) เป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อกวน ซึ่งข่าวลวงจะนําเสนอเรื่องราวที่เป็นเท็จ มีวัตถุประสงค์แอบแฝงที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อขายสินค้า ทําให้เกิดความเข้าใจผิด สร้างความสับสน ให้แก่ผู้รับข้อมูล ข่าวลวงอาจแพร่ผ่านอีเมล หรือเครือข่ายทางสังคม โดยจะส่งผลให้เกิดความเสียหาย ทั้งส่วนบุคคล ทางด้านเศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง ฯลฯ

 

ลักษณะของข่าวลวง เช่น 

✿ สร้างเรื่องราวเพื่อให้เป็นจุดสนใจของสังคม 

✿ สร้างความหวาดกลัว 

✿ กระตุ้นความโลภ 

✿ สร้างความเกลียดชัง 

✿ ส่งต่อกันมาผ่านเครือข่ายทางสังคม 

✿ ไม่ระบุแหล่งที่มา

✿ ขยายความต่อจากอคติของคนทั่วไปที่มีอยู่ก่อนแล้ว เพื่อหวังให้ ตนเองได้รับผลประโยชน์ หรือใช้เพื่อโจมตีคู่แข่ง

          ดังนั้นผู้รับข่าวสารต้องมีวิจารณญาณเพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองและผู้อื่นตกเป็นเหยื่อของข่าวลวง เพื่อป้องกัน ความเสียหายต่อตนเองและสังคม

กิจกรรมที่ 1.3

 

          ให้นักเรียนยกตัวอย่างสถานการณ์ข่าวลวง แล้ววิเคราะห์ถึงวัตถุประสงค์ และผลกระทบที่อาจ เกิดขึ้น หากมีการแชร์สู่สังคม

ใบกิจกรรมที่ 1.3 เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย  

2066457.png

อ้างอิงจาก หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ)

                  สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ

bottom of page